รพ.นางรอง ได้ยกระดับจาก รพ.ชุมชน เป็น รพ.ทั่วไป

รพ.นางรอง ได้ยกระดับจาก รพ.ชุมชน เป็น รพ.ทั่วไป
อ.ก.พ.สธ. เห็นชอบยกระดับ 20 รพ. ชุมชน ขึ้นเป็น รพ. ทั่วไป สธ. เผยเตรียมขอตำแหน่ง ผอ. สูงให้ ผอ.รพ. ชี้ข้อดีช่วยขออัตรากำลังได้มากขึ้น เพิ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยบริการประชาชนในพื้นที่ ไม่ต้องเดินทางไกล ด้านหมอชนบทติงบางแห่งยังอยู่ในชนบท แพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนไหนจะยอมมาทำงาน

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การพิจารณาขอยกฐานะโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) รพ.นางรอง เป็นโรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สธ. นั้น เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ลงนามในฐานะผู้ปฏิบัติราชการแทนปลัด สธ. เป็นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อแจ้งผลการพิจารณาดังกล่าว ซึ่งเห็นชอบให้ยกฐานะ รพช. เป็น รพท.

ทึ่งเด็กอนุบาล ร.ร.นางรอง ท่องพุทธวจนได้ยกโรงเรียน

ทึ่ง! เด็กอนุบาล ร.ร.นางรอง ท่องพุทธวจนได้ยกโรงเรียน
ทึ่งเด็กนักเรียนอนุบาล ร.ร.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ท่องพุทธวจนได้ยกโรงเรียน ด้าน ผอ.ระบุจะให้นักเรียนท่องตั้งแต่อนุบาลแล้วสอนรุ่นสู่รุ่นให้ยั่งยืน เพราะเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์

ถนนคนเดินนางรอง : ถนนถมหมืดถมมอ

ถนนคนเดินนางรอง : ถนนถมหมืดถมมอ
ถนนเดินนางรองบ้านเอ๋ง ทุกวันศุกร์ เสาร์ ของกินของใช้ เสื้อผ้ามือ1 มือ2 ของแต่งบ้าน ของวัยรุ่น ของที่ระลึก สมกับชื่่อ "ถนนถมหมืดถมมอ"

credit : FB/นางรองบ้านเอ๋ง
FB/เมืองนางรอง

ชาวบ้านบุรีรัมย์แห่ตกปลา “เขื่อนลำนางรอง” ขาย สร้างรายได้เสริม

บุรีรัมย์ - ชาวบ้านและเกษตรกรอำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ และอำเภอใกล้เคียง ที่ว่างงานและว่างเว้นจากการทำไร่นา พากันตกปลาในเขื่อนลำนางรองเพื่อนำไปขายให้พ่อค้าแม่ค้า นักท่องเที่ยว และผู้เดินทาง มีรายได้วันละ 200-300 บาท

วันนี้ (20 ส.ค.) ชาวบ้านและเกษตรกรในเขตพื้นที่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ และอำเภอใกล้เคียง ที่ว่างงานและว่างเว้นจากการทำไร่นาจำนวนมากพากันนำเบ็ดมาตกปลาในเขื่อนลำนางรอง อ.โนนดินแดง เพื่อนำไปขายให้พ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการร้านอาหาร รวมทั้งนักท่องเที่ยวและผู้สัญจรผ่านไปมา สร้างรายได้เสริมรายละ 200-300 บาทต่อวัน และสามารถลดการเคลื่อนย้ายแรงงานได้เป็นอย่างดี

โดยในแต่ละวันมีประชาชนและเกษตรกรมาตกปลาในเขื่อนลำนางรอง 50-100 คน แต่ละคนตกปลาได้วันละประมาณ 4-6 กิโลกรัม ส่วนมากเป็นปลาตะเพียน ปลานิล และปลาธรรมชาติอื่นๆ อีกหลายชนิด แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของพ่อค้าแม่ค้า และร้านอาหาร ที่นำไปประกอบอาหารจำหน่าย

นายมณี วิเศษใส อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 298 ม.17 บ้านเนินทอง ต.หูทำนบ อ.ประคำ จ.บุรีรัมย์ หนึ่งในกลุ่มชาวบ้านที่ตกปลาเขื่อนลำนางรองขายเป็นอาชีพเสริม เล่าว่า ช่วงนี้ว่างงานจึงได้มาตกปลาที่เขื่อนเพื่อจำหน่ายและนำไปรับประทานในครอบครัว สามารถตกปลาได้วันละ 5-6 กิโลกรัม ขายส่งให้ร้านอาหาร และผู้ที่มารับซื้อโดยตรง มีรายได้วันละ 200-300 บาท ถึงแม้เป็นรายได้ที่ไม่มากนักแต่ก็พอใจเพราะส่วนตัวชื่นชอบการตกปลาอยู่แล้ว ซึ่งในช่วงวันหยุดจะมีผู้ชื่นชอบการตกปลาพากันมาตกปลาในเขื่อนลำนางรองมากกว่า 100 คน

ชาวนางรองคลายวิตกหลังจับจระเข้หนีลงน้ำได้แล้ว

ชาวนางรองคลายวิตกหลังจับจระเข้หนีลงน้ำได้แล้ว
บุรีรัมย์ - ชาวนางรองเลิกหวาดผวาจระเข้หนีลงน้ำ หลังเจ้าหน้าที่ประมงบุรีรัมย์ พร้อมชาวบ้าน ต.หนองโบสถ์ จับจระเข้ได้แล้ว เผยเป็นจระเข้น้ำจืดเพศเมีย อายุประมาณ 2 ปี ลำตัวยาว 1.50 เมตร คาดหลงน้ำเข้ามาในช่วงน้ำท่วม หลังจากที่นายสมบุญ ธัญญาผล ผู้ช่วยประมงจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายภานุพันธุ์ วรรณสุรชาติ ประมงอำเภอนางรอง, นายสมคิด มหิงสาเดช กำนันตำบลหนองโบสถ์ อ.นางรอง และชาวบ้านช่วยกันไล่จับจระเข้ยาวประมาณ 1.50 เมตรที่หนีลงทุ่งนา ห่างจากสระน้ำที่ใช้ผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค อ.นางรอง ซึ่งก่อนหน้านี้ประมงจังหวัดพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประมงอำเภอนางรอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยน้ำบริหารจัดการประมงน้ำจืด อ.โนนดินแดง และชาวบ้านกว่า 20 คน ได้ระดมกำลังล่าจระเข้

ทั้งทอดแหและใช้เบ็ดขนาดใหญ่ นำซี่โครงไก่เป็นเหยื่อล่อรอบบริเวณที่พบจระเข้ แต่ยังไม่พบตัวเนื่องจากน้ำในสระลึกถึง 6 เมตร และมีบริเวณกว้างครอบคลุมเนื้อที่กว่า 60 ไร่ แต่ได้จัดเจ้าหน้าที่ร่วมกับชาวบ้านเฝ้าติดตามจระเข้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ (18 ส.ค.) ชาวบ้านได้พบเห็นจระเข้หนีขึ้นมาจากสระลงทุ่งนา ห่างจากสระน้ำประมาณ 1 กิโลเมตร จึงช่วยกันไล่จับจระเข้ไว้ได้ หลังจากในช่วง 7 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่และชาวบ้านพยายามเฝ้าติดตามล่ามาตลอด ซึ่งเป็นจระเข้น้ำจืดเพศเมีย อายุประมาณ 2 ปี ลำตัวยาว 1.50 เมตร น้ำหนัก 9 กิโลกรัม ก่อนจะนำไปเลี้ยงไว้ที่ประมงจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อรอเจ้าของจระเข้มาติดต่อ หลังทราบข่าวชาวบ้านต่างมาดูจำนวนมากและคลายความหวาดผวา สามารถออกหาปลาไปทำนารอบสระน้ำอย่างปลอดภัย ด้านนายสมบุญ ธัญญาผล ผู้ช่วยประมงจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากชาวบ้านในพื้นที่ได้พยายามจับจระเข้มาหลายวัน วันนี้จระเข้ได้ขึ้นมาจากสระน้ำและหนีลงทุ่งนา ชาวบ้านเห็นรอยเท้าจึงพากันตามไปจับได้ เชื่อว่าอาจเป็นจระเข้ที่หลงน้ำเข้ามา เพราะเมื่อปีที่แล้วเกิดน้ำท่วมหนักและมีน้ำไหลบ่ามาจาก อ.โนนดินแดง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ และ อ.ครบุรี อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา เข้ามาในสระน้ำดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้นำจระเข้ไปเลี้ยงไว้ที่ประมงจังหวัดก่อน เพื่อรอดูว่าจะมีใครมาแจ้งเป็นเจ้าของหรือไม่ ก่อนจะดำเนินการตามระเบียบทางราชการต่อไป
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

คนนางรองด้วยกันแท้ๆ : แดงปะทะกปปส.ที่นางรองเจ็บ1 (ข่าวเก่ามาเล่าใหม่)

นปช.บุรีรัมย์บุกรื้อป้ายหนุนปฏิรูปหน้าโรงพยาบาลนางรอง ปะทะเดือดกปปส.เคลื่อนไหวต่อต้านถูกขวดแก้วปาใส่เจ็บ 1เครือข่ายแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)บุรีรัมย์ และกลุ่มขบวนการคนอีสาน ปกป้องประชาธิปไตยจ.บุรีรัมย์กว่า 300 คน ได้เคลื่อนขบวนรถติดเครื่องขยายเสียงพร้อมถือป้ายที่มีข้อความต่อต้านเผด็จการ การปฏิวัติรัฐประหารและป้ายสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไปตามถนนสายต่าง ๆในเขตเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
(ข่าวเก่ามาเล่าใหม่)
จาก โพสต์ทูเดย์

พบข้าวโกดังนางรองบุรีรัมย์เสื่อมสภาพแล้ว 3,000 กระสอบ คาดพุ่งหมื่นกระสอบ

บุรีรัมย์- พบข้าวสารในโกดังกลาง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่กำลังขนย้ายตามสัญญาซื้อขายให้บริษัทเอกชนเสื่อมสภาพไม่ผ่านเกณฑ์ส่งออกแล้วกว่า 3,000 กระสอบ อ้างเก็บไว้นานกว่า 2 ปี คาดมีข้าวเสื่อมสภาพทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 10,000 กระสอบจากข้าวในสต๊อกกว่า 41,000 กระสอบ ขณะทหารยังคุมเข้มการขนย้ายต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (9 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ทหารจากจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอนางรอง เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) และตัวแทนบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว หรือเซอร์เวเยอร์ ยังร่วมกันตรวจสอบการขนย้ายข้าวสารชนิด “ปลายข้าวหอมมะลิ (เอวันเลิศ)” ออกจากคลังสินค้า AAAAA นำเข้า ตั้งอยู่เลขที่ 808 ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เพื่อส่งออกต่างประเทศตามสัญญาการซื้อขายที่บริษัทเอกชน (บริษัท เจียเม้ง จำกัด) ได้รับการประมูลอย่างต่อเนื่อง
โดยจากการตรวจสอบคุณภาพข้าวของเซอร์เวเยอร์ก่อนการขนย้ายออกจากโกดัง ล่าสุดพบมีข้าวสารเสื่อมสภาพที่ถูกคัดแยกไว้ เนื่องจากไม่ผ่านเกณฑ์การส่งออกแล้วกว่า 3,000 กระสอบ จากที่ได้ทำการตรวจนับเพื่อขนย้ายเพียงกว่า 5,000 กระสอบ ทั้งนี้คาดว่าจะมีข้าวเสื่อมสภาพไม่ต่ำกว่า 10,000 กระสอบ จากที่มีข้าวสารตามบัญชีมีในโกดังกลางดังกล่าว 41,349 กระสอบ โดยเบื้องต้นมีคำสั่งให้ขนย้ายเพื่อส่งออกในล็อตนี้จำนวน 3,000 ตัน หรือ 30,000 กระสอบ
นายสมชาย ลาบฤทธิเดช ตัวแทนเซอร์เวเยอร์ ระบุว่า สาเหตุที่ข้าวสารในโกดังกลางเสื่อมสภาพนั้น อาจเนื่องจากเก็บไว้เป็นเวลานานกว่า 2 ปีแต่ไม่มีการระบายออก สำหรับข้าวที่เสื่อมสภาพนั้นทาง อคส.จะได้ทำบันทึกรายงานให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า จ.บุรีรัมย์มีโกดังกลางจัดเก็บข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลอยู่ทั้งหมด 7 แห่ง ปัจจุบันมีข้าวสารที่จัดเก็บไว้ในโกดังกลางตามบัญชีที่ระบุไว้ รวมทั้งสิ้น 362,962 กระสอบ และ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 41 ภายใต้ อนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ที่แต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.)

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

สมัชชาคนจนยื่นหนังสือ‘ประยุทธ์’ กองทัพรับปากประสานเจรจาในพื้นที่้บ้านเก้าบาตร

15 ก.ค.2556 เมื่อเวลาประมาณ 9.30 น.ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ตัวแทนสมัชชาคนจน นายสมเกียรติ พ้นภัย และนายไพฑูรย์ สร้อยสด ตัวแทนชาวบ้านหมู่บ้านเก้าบาตร ต.ลำนารอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่สันติอาสาจากมหาวิทยาลัยมหิดล ขอเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และ ผบ.ทบ. เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกเรื่อง ขอให้ยุติการอพยพ ไล่รื้อบ้าน ชาวบ้านเก้าบาตร ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ออกจากที่อาศัยและที่ทำกิน โดยที่ทางกองทัพบกได้ส่ง พ.อ.หญิงบุษบงค์ นุตสถิตย์ สำนักงานเลขานุการทหารบก เป็นตัวแทนมารับเรื่องจากสมัชชาคนจน

เรื่องดังกล่าวสืบเนื่องมาจากคสช.มีคำสั่งฉบับที่ 64/2667 เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าพื้นที่หมู่บ้านเก้าบาตรและหมู่บ้านอื่นๆ ในพื้นที่ป่าสงวนดงใหญ่ตั้งแต่ปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาจนปัจจุบัน โดยชาวบ้านเก้าบาตรยังคงยืนยันที่จะอยู่ในพื้นที่

ชาวบ้านเก้าบาตรกล่าวว่า ชาวบ้านอยู่ในพื้นที่มาตั้งแต่รัฐไทยทำสงครามสู้รับกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) โดยทหารเป็นผู้นำชาวบ้านไปตั้งถิ่นฐานเองเพื่อให้เป็นพื้นที่กันชน

นายไพฑูรย์ตัวแทนชาวบ้านให้สัมภาษณ์ว่า ทาง พ.อ.หญิงบุษบงค์ ได้ยืนยันว่ากระบวนการนำชาวบ้านออกจากพื้นที่ยังจะต้องดำเนินต่อไปเนื่องจากเป็นการดำเนินการตามคำสั่งศาล โดยในเบื้องต้นทางกองทัพบกจะประสานให้เกิดการพูดคุยระหว่างชาวบ้านกับกองทัพภาคที่ 2 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะชะลอการไล่รื้อไว้ก่อนในระหว่างรอการเจรจา

อย่างไรก็ตามนายไพฑูรย์กล่าวด้วยว่าที่ผ่านมาชาวบ้านยังไม่ได้รับความชัดเจนจากทางกองทัพภาคที่ 2 ว่าสถานที่ที่จะให้ชาวบ้านไปอยู่หลังถูกอพยพออกจากหมู่บ้านเก้าบาตรนั้นเป็นที่ใดกันแน่ ซึ่งการจัดสรรที่อยู่ใหม่นับเป็นข้อกังวลใหญ่ของชาวบ้าน 

ข่าวจาก ประชาไทย www.prachatai.com

Nangrong Society : แวดวง คนนางรอง: พบข้าวโกดังนางรองบุรีรัมย์เสื่อมสภาพแล้ว 3,000 กระ...: บุรีรัมย์- พบข้าวสารในโกดังกลาง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่กำลังขนย้ายตามสัญญาซื้อขายให้บริษัทเอกชนเสื่อมสภาพไม่ผ่านเกณฑ์ส่งออกแล้วกว่า 3,000 ก...

แห่เทียนเข้าพรรษา

วันเข้าพรรษา (บาลี: วสฺส, สันสกฤต: วรฺษ, อังกฤษ: Vassa, เขมร: វស្សា, พม่า:) เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า จำพรรษา ("พรรษา" แปลว่า ฤดูฝน, "จำ" แปลว่า พักอยู่) พิธีเข้าพรรษานี้ถือเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์โดยตรง ละเว้นไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม[1] การเข้าพรรษาตามปกติเริ่มนับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี (หรือเดือน 8 หลัง ถ้ามีเดือน 8 สองหน) และสิ้นสุดลงในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา
อ่านต่อ>>>

ช้างป่ารุมทำร้ายชาวบุรีรัมย์ ขณะไปหาของป่าดงใหญ่ โนนดินแดง ดับสยอง

บุรีรัมย์ - เกิดเหตุช้างป่าทำร้ายชาวบุรีรัมย์วัย 74 ปี ขณะปั่นจักรยานเข้าไปหาของป่าในเขตพื้นที่ป่า “สงวนฯ ดงใหญ่” เสียชีวิตสยอง ร่างกายแขนขาและคอหักหมุนได้รอบ มีบาดเผลรอยช้ำตามลำตัว ชาวบ้านระบุถูกโขลงช้างกว่า 10 ตัวที่ออกมาหากินชายป่าและพืชไร่ของชาวบ้านประจำ ทำร้ายจนเสียชีวิต เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ (7 ก.ค.) ร.ต.ท.ขจรศักดิ์ บูชารัมย์ ร้อยเวร สภ.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านโคกเพชรว่ามีชาวบ้านถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิตที่บริเวณชายป่าหนองโคกหินตั้ง บ้านโคกเพชร ต.ลำนางรอง ในเขตพื้นที่ป่าดงใหญ่ จึงนำกำลัง พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยฯ รุดไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณข้างถนนทางเข้าไปในป่าโคกหินตั้ง อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ซึ่งห่างจากหมู่บ้านโคกเพชร ต.ลำนางรอง ประมาณ 10 กิโลเมตร พบศพนายประจวบก ศรีสำราญ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 13 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง นอนเสียชีวิตในสภาพคอ แขน ขา และคอหักหมุนได้รอบ ทั้งยังมีบาดแผลรอยถลอกตามร่างกาย เสื้อผ้ากางเกงถูกฉีกขาดหลุดลุ่ย ใกล้ศพผู้ตายพบรถจักรยานสองล้อของผู้ตายพังยับ ล้อหน้าหลุดออกจากตัวรถ

สลด! พนง.รพ.นางรอง ขับรถชนพ่วง 18 ล้อ ดับ

บุรีรัมย์-สลด! พนง.รพ.นางรอง ขับรถชนพ่วง 18 ล้อ ดับ
หนุ่มวัย 32 ปี พนักงานโรงพยาบาลนางรอง ขับจักรยานยนต์ชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ ทั้งคนทั้งรถถูกลากติดไปกับรถพ่วงไกล 500 เมตรก่อนที่ร่างจะหลุดออกจากรถ ส่วนจักรยานยนต์ยังถูกลากไปไกลอีก 3 กิโลเมตร
เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.00 น. (28 มิ.ย.) บนถนนหลวงสาย 24 โชคชัย–เดชอุดม ขาเข้า อ.นางรอง ตรงข้ามปั้ม ปตท.หนองโบถส์ ต.หนองโบถส์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-2680 อุบลราชธานี (ตัวลูก) 70-2681 อุบลราชธานี จอดอยู่ข้างทางสภาพยางด้านหลังฝั่งขวาแตก 2 เส้น และรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สกู้ปปี้ไอ สีฟ้า– ขาว หมายเลขทะเบียน ขษพ-757 บุรีรัมย์ ติดอยู่ท้ายรถ สภาพพังยับเยิน แต่ไม่พบคนขับรถจักรยานยนต์
จากนั้นหน่วยกู้ภัยสยามฯ ได้ออกติดตามหาในบริเวณโดยรอบแต่ก็ยังไม่พบ จึงได้ติดตามจากร่องรอยการลากของรถ จึงไปพบผู้เสียชีวิต อยู่ไกลจากจุดที่รถพ่วงจอดกว่า 3 กม. ทราบชื่อคือนายเกียรติศักดิ์ หุนกระโทก อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นพนักงานของโรงพยาบาลนางรอง แต่ห่างจากจุดที่พบศพผู้เสียชีวิตยังมีรอยลากไปอีกกว่า 500 เมตร ซึ่งจุดนี้คาดว่าจะเป็นจุดเกิดเหตุที่รถจักรยานยนต์ชนท้ายรถพ่วง

วันที่ 28 มิถุนายน 2557 เวลา 09:49:07 น.
WWW.KROBKRUAKAO.COM

6Population Change and Landscape Dynamics: The Nang Rong, Thailand, Studies

6 Population Change and Landscape Dynamics: The Nang Rong, Thailand, Studies Stephen J. Walsh, Ronald R. Rindfuss, Pramote Prasartkul, Barbara Entwisle, and Aphichat Chamratrithirong Go to:

INTRODUCTION
 During the past 40 years there have been two major popular and scientific environmental initiatives. The first was in the 1960s and early 1970s, perhaps triggered by the 1962 publication of Rachel Carson's Silent Spring. The second focused on global climate change and is perhaps best indexed by the formation of the International Geosphere-Biosphere Program in 1986. During the first environmental research initiative, population researchers tended to stay on the sidelines. There were several reasons. First, the research